OKR หรือ Objective Key Result คืออะไร ??

1000 667 Mitsumoto
  • 0

WHAT ABOUT OKR ??

OKR คืออะไร ?

OKR มาจากคำว่า Objective and Key Result

O (Objective) แปลว่า เป้าหมาย (ความฝัน)

KR (Key Result) แปลว่า สิ่งที่วัดความสำเร็จ หรือ ตัวชี้วัดที่แสดงว่าเราบรรลุเป้าหมาย

WHY DO WE CHANGE FROM KPI TO OKR ??

ความแตกต่างระหว่าง OKR และ KPI

  • KPI มีผลโดยตรงกับผลตอบแทนที่พนักงานได้รับ หรือที่เราอาจะเรียกกันว่า Compensation KPI แต่สำหรับ OKR ไม่ได้ยึดติดกับผลตอบแทน
  • OKR จำมีการประกาศให้ทุกคนในองค์กรได้ทราบ และจะมีการทบทวนเป็นไตรมาส หรือ 4 ครั้งต่อปี แต่ KPI นั้นจะไม่มีการประกาศ และทบทวนแค่ ปีละ 1-2 ครั้ง
  • OKR เป็นการท้าทายระบบการทำงานแบบใหม่ ในขณะที่ KPI นั้น จะยึดติดกับหลักการทำงานแบบเดิม
  • OKR มุ่งเน้นในการปรับปรุงงานหรือพัฒนาศักยภาพ
  • OKR สร้างความเชื่อมโยงเป้าหมายของแต่ละหน่วยงานให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน
  • OKR สามารถสร้างความท้าทายใหม่ และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด (Leapfrog)
  • OKR สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้บางส่วน แต่ในขณะที่ KPI นั้นสามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ทั้งหมด
  • OKR มาจากการเสนอแนะจากพนักงานที่ปฏิบัติงาน ส่วน KPI นั้นเป็นข้อกำหนดที่ถูกตั้งโดยผู้บริหารเท่านั้น (Top to down)

สิ่งสำคัญสำหรับการใช้ระบบ OKR คือการสร้างแนวทางสู่ความสำเร็จและการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน (Clear path to success) ตัวอย่างของบริษัทที่ใช้ระบบ OKR อย่างเช่น Google จะมีการกำหนดเป้าหมาย หรือการประกาศ OKR ของแต่ละแผนกให้ทุกคนได้รับทราบ ซึ่งการประกาศนั้น จำเป็นต้องมีความชัดเจน (Clarity) ไม่เช่นนั้นจะมีคำถามจากเพื่อนร่วมทีมและเพื่อนร่วมแผนกเนื่องจากความไม่ชัดเจนของเป้าหมาย นอกจากนี้ OKR ยังทำให้พนักงานเกิดความมีส่วนร่วมในความคิดและในการทำงาน (Engage) จุดประสงค์ของการประกาศ OKR คือ สร้างแรงกดดัน(Preasure) และสร้างความกระตือรือร้นให้กับพนักงาน ให้เกิดความรับผิดชอบกับเป้าหมายที่ได้รับ

 

HOW TO USE OKR WITH UR BUSINESS ??

เราจะสามารถนำ OKR มาประยุกต์ใช้กับองค์กรเราได้อย่างไรบ้าง ??

กฎของการทำ OKR คือ

  • การกำหนดวัตถุประสงค์ ของ OKR ไม่ควรจะเกิน 3 ข้อ
  • ข้อมูลโปร่งใสทุกคนสามารถเห็นได้
  • วัตถุประสงค์ที่กำหนดต้องมีความเชื่อมโยงกัน
  • ต้องสร้าง OKR Ambassador หรือผู้เชี่ยวชาญด้าน OKR ขึ้นในองค์กร โดยทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ จัดเก็บข้อมูลและติดตามความคืบหน้าทุก 1-2 สัปดาห์

ในการทำ OKR จะทำปีละครั้ง แบ่งยอดขายออกมาเป็นไตรมาสและหากไปได้ ก็มีการทบทวนหรือติดตามความคืบหน้าทุกสัปดาห์ ภายใต้แต่ละ OKR จะมี Initiative หรือโครงการเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

ขั้นตอนการทำ OKR

  • 4-6 สัปดาห์ก่อนเริ่มนำ OKR มาใช้ต้องมีการประชุมของผู้บริหาร ระดับสูงก่อน เพื่อสร้าง OKR ในระดับบริษัทขึ้นมาก่อน ซึ่งถือว่าเป็นแผนงานของบริษัทในระยะ 1 ปีข้างหน้า
  • 2 สัปดาห์ก่อนเริ่มนำ OKR มาใช้ต้องสรุปแผน OKR ในระดับบริษัท และสื่อสารหรือประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ
  • สัปดาห์แรกของเดือน ที่เริ่มใช้ OKR ต้องมีการพัฒนา OKR ในระดับหน่วยงานหรือระดับทีม
  • สัปดาห์ที่สองของเดือน ที่เริ่มใช้ OKR ต้องมีการหารือและพิจารณาผลลัพธ์หลัก (Objective) ระหว่างผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยงาน เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
  • สัปดาห์ที่สามของเดือน ที่เริ่มใช้ OKR มีการติดตามความคืบหน้าของ ผลลัพธ์ (Objective) อย่างต่อเนื่องทุกๆ 1-2 สัปดาห์ หากไม่ได้ตามเป้าหมายทางผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารหน่วยต้องร่วมกันแก้ไข
  • สัปดาห์สุดท้าย ของการใช้ระบบ OKR ไตรมาสที่ 1 ผู้บริหารหน่วยงานประเมินคะแนน OKR ของตนเอง สะท้อนถึงความสำเร็จหรือปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินงาน และนำไปปรับปรุงแก้ไขในไตรมาสต่อไป

การนำ OKR มาใช้ทั่วทั้งองค์กรในครั้งแรกมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง หลายๆองค์กรจึงนิยมนำมาปรับใช้แค่บางหน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือ หน่วยงานด้านนวัตกรรม และเมื่อประสบความสำเร็จแล้วจึงค่อยนำมาปรับใช้แผนกอื่นๆ จนถึงทั่วทั้งองค์กร ซึ่งการทำ OKR ให้ได้ผลนั้นต้องได้รับการยินยอมจากผู้บริหารระดับสูงก่อน

แหล่งอ้างอิง : https://www.okr-thai.com/okr-guide/

 

.

.

#mitsumoto #mitsumotothailand #endcap #dustcap #OKR #ObjectiveKeyResult #plastic #blog #polymer #dipping #จุกปิดกันฝุ่น #จุกป้องกันฝุ่น

Author

Mitsumoto

All stories by: Mitsumoto